แล้วก็ถึงเวลาที่อาดิดาส (ประเทศไทย) นำ "adiPOWER Predator®" เจเนอเรชั่นที่ 11
ของรองเท้าฟุตบอลตระกูลระดับตำนานเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว
โดยมีเฉดสีต่างๆ นานามากมายให้เลือกจับจองเป็นเจ้าของตามความชื่นชอบของแต่ละคน
หนึ่งในนั้นก็คือสี "ขาว-ม่วง" เวอร์ชั่นพิเศษของศึก "ยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีกส์ (UCL)
2011/2012" ที่ทางอาดิดาสได้พามาแนะนำให้เพื่อนๆ ชาว SiamBoots ได้ทำความรู้จัก
ธีมของยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีกส์ (UCL) ประจำฤดูกาล 2011/2012 ในช่วงแรกที่เพิ่ง
เปิดฤดูกาลจะมาในแบบหลายหลากเฉดสี โดยเฉพาะเฉดสีม่วง น้ำเงินและเขียว ซึ่งถือ
เป็นเฉดสีที่โดดเด่นเป็นอย่างมากที่เราๆ ท่านๆ น่าจะได้เห็นกันทุกคนแล้วบนลวดลาย
ของลูกฟุตบอลประจำการแข่งขันที่อาดิดาสนั้นเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เอง
อาดิดาสจึงได้ออกแบบ "adiPOWER Predator®" เวอร์ชั่น UCL 2011/2012 ให้เข้ากับธีม
การแข่งขันโดยได้เลือก "สีม่วง" มาใช้แต่งแต้มเป็นส่วนหนึ่งของรองเท้า และที่บริเวณส้น
จะมีแถบสีมากมายซึ่งแสดงถึงธีมของ UCL 2011/2012 นั่นเอง
เอาล่ะ !! มาขอเริ่มการแนะนำตัว adiPOWER Predator® UCL 2011/12 อย่างเป็นทางการ
เลยแล้วกันนะครับ เริ่มกันตั้งแต่เปิดกล่อง สำรวจทุกมุมตั้งแต่หัวจรดท้าย บรรยายรายละเอียด
คร่าวๆ ก่อนที่ผมจะนำเสนอการรีวิวทดสอบการใช้งานจริง วิเคราะห์วิจารณ์ข้อดีข้อเสียอีกครั้ง
ในภายหลังแน่นอน
ก่อนอื่นทำการเปิดกล่องสีดำของอาดิดาสแบบที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ซึ่งกล่องนี้ผมได้มาอย่าง
เป็นทางการจาก อาดิดาส (ประเทศไทย) ดังนั้นสิ่งต่างๆ ที่บรรจุมาในกล่องสีดำใบนี้ ก็จะ
เป็นแบบเดียวกับที่ท่านทั้งหลายจะพบเจอ เมื่อซื้อ adiPOWER Predator® จากผู้จัดจำหน่าย
อย่างเป็นทางการ
ในกล่องจะประกอบไปด้วย แผ่นป้ายกระดาษแสดงคำแนะนำทั้งหมด 4 ภาษา รองเท้าฟุตบอล
อาดิดาสรุ่น adiPOWER Predator UCL 2011/12 ในเฉดสี "ขาว-ม่วง" รองตะแคงสลับกลับหัว
กันอยู่ หลักๆ ก็มีเพียงเท่านี้นะครับ ไม่มีแผ่นป้ายแนะนำเทคโนโลยีอะไรเป็นพิเศษ และน่าเสียดาย
ที่ในเจเนอเรชั่นนี้ อาดิดาสไม่ได้ให้ "กระเป๋า" ในธีมของ Predator® มาเหมือนกับเจเนอเรชั่น
ก่อน เพราะใครต่อใครก็รู้กันดีว่าตอนเอารองเท้าใส่กระเป๋าแล้วสะพายเดินทางไปเตะฟุตบอลนั้น
มันเท่มากแค่ไหน
เพียงแค่ได้ลองหยิบขึ้นมาก็รู้สึกถึงความเบาของ adiPOWER Predator® ได้ทันที เพราะ
รองเท้าฟุตบอลรุ่นนี้มีน้ำหนัก ตัวเพียง 222.0 กรัม เท่านั้น ถือได้ว่าเป็นการพลิกประวัติศาสตร์
ของรองเท้าฟุตบอลตระกูลนี้เลย เพราะนี่คือ Predator® ที่มีน้ำหนักเบามากที่สุดเท่าที่อาดิดาส
เคยผลิตออกมาจำหน่าย (ไม่นับรวมรุ่น adiPOWER Predator® SL) แม้น้ำหนักตัวจะเบา
แต่เท่าที่สัมผัสบริเวณหน้าผ้าและลำตัวของรองเท้าคู่นี้ สามารถรู้สึกได้เลยว่ารองเท้าที่อยู่ในมือ
ของผมคู่นี้เบาแต่ไม่บอบบางอย่างที่หลายๆ คนเคยตั้งคำถามเอาไว้
adiPOWER Predator® UCL 2011/12 คู่นี้มีหน้าผ้าเป็นหนังลูกวัวกระทิง (Calfskin leather)
มีแนวด้ายเย็บในแนวขวาง แนวด้ายเย็บเป็นระเบียบในแนวขวาง ช่วยเสริมให้หน้าผ้ามีความ
ทนทาน การที่อาดิดาสออกแบบลักษณะการเย็บให้เป็นลอนๆ ขึ้นมาแบบนี้จะช่วยเพิ่มความนุ่ม
ให้แก่หน้าผ้าและยังใช้เป็นพื้นที่ในการสัมผัสกับลูกฟุตบอลที่หนักแน่นได้อีกด้วย ลักษณะของ
เฉดสีของหน้าผ้าและตัวรองเท้าจะเป็นสีขาวมุก ดูแล้วสวยงามและหรูหราสมกับศักดิ์ศรีของ
ศึกฟุตบอลสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป และจากภาพจะเห็นได้ว่าบริเวณหัวรองเท้านั้นมีการ
ออกแบบชิ้นของพลาสติกใสเพิ่มขึ้นมาปิดบริเวณรอยต่อระหว่างหัวรองเท้ากับชุดพื้น เพื่อช่วย
ป้องกันปัญหา "หัวเปิด"ที่เกิดจากการเตะขุดติดให้หมดไป
ในขณะที่แถบสามขีดซึ่งเป็นเครื่องหมายทางการค้าของอาดิดาส จะเป็นเฉดสีม่วงอ่อนๆ
โดยจะถูกลากยาวไปรวมกับแนวร้อยเชือก ซึ่งประกอบไปด้วยลิ้นและเชือกรองเท้าที่ติดตัว
รองเท้ามาตั้งแต่แรก ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าตรงกลางและกรอบของแถบสามขีดนั้นจะมีเส้นสีเขียว
สะท้อนแสง สร้างความโดดเด่นสวยงามให้กับรองเท้าคู่นี้ได้มากพอสมควรเลยทีเดียว โดย
ทั้งหมดนี้เป็นรายละเอียดทางฝั่งข้างเท้าด้านนอก
สำหรับทางฝั่งข้างเท้าด้านในจะสังเกตได้ว่าเส้นสีตรงกลางและกรอบของแถบสามขีดนั้นจะ
เป็นเส้นสีเหลือง ไม่ได้เกิดจากความผิดเพี้ยนของกล้องที่ถ่ายรูปแต่อย่างใด เหตุผลที่เส้นสี
ทั้งสองด้านมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดก็เพราะเป็นพื้นที่ของ "Predator® Element"
หรือแถบยางปั่นโค้ง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอันเลื่องชื่อที่มีในรองเท้าฟุตบอลตระกูลนี้เป็นอันดับ
แรกๆ โดยอาดิดาสได้พัฒนาลูกเล่นดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพดียิ่งๆ ขึ้นในทุกๆ เจเนอเรชั่น
รวมถึงในเจเนอเรชั่นนี้ก็เช่นกัน
Predator® Element ของ adiPOWER Predator® จะมีลักษณะเป็นยางซิลิโคนสีขาวขุ่น
เพื่อไม่ให้เฉดสีของแถบยางส่งผลกระทบทำให้สีหลักของตัวรองเท้า(ด้านใน)ผิดเพี้ยนไปจากเดิม
มากนัก โดย Predator® Element อยู่ตรงกลางของรองเท้าเชื่อมต่อกับฐานรองเท้าด้วยซีลิโคน
ยาง ที่ช่วยให้สามารถควบคุมลูกฟุตบอลได้ในทุกสภาพอากาศ การปรับปรุงประสิทธิภาพของ
Predator® ทำให้ adiPOWER Predator® เป็นรองเท้าสตั๊ดที่สมบูรณ์แบบที่สุดในตระกูล
Predator® เท่าที่เคยมีมา
ไม่เพียงแค่เรื่องการพัฒนานวัติกรรมทางวัสดุเท่านั้น เพราะอาดิดาสยังได้มีการออกแบบ
รายละเอียดและรูปร่างหน้าตาของ Predator® Element ใหม่ทั้งหมด มีการเพิ่มมิติความลึก
และเส้นสาย รวมถึงได้จัดสรรแบ่งพื้นที่ต่างๆ เพื่อใช้สัมผัสกับลูกฟุตบอลไว้อย่างชัดเจน
สัมผัสของแถบยางปั่นโค้งของรองเท้ารุ่นนี้ซึ่งเป็นรุ่นท็อปจะมีความนิ่มกว่ารุ่นรองท็อปฯ
แต่เมื่อลองเอาแถบยางปั่นโค้งของรองเท้าทั้งสองข้างมาประกบและถูไถไปมาเพื่อทดสอบ
ความเหนียว พบว่าแถบยางปั่นโค้งจะไม่มีความเหนียวเหมือนกับการที่เอาผิวหน้าของ
รองเท้าหนังสังเคราะห์มาถูไถกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่คำตอบของประสิทธิภาพในการปั่นโค้ง
ของลูกฟุตบอลที่ถูกเตะไซร้ออกไปจาก Predator® Element สุดท้ายและจะดีไม่ดียังไง
คงต้องรอคำตอบจากการรีวิวทดสอบการใช้งานจริงอีกครั้งหนึ่ง
ถัดมาที่ด้านท้ายก่อนจะถึงตำแหน่งส้นของรองเท้า บนพื้นที่สีม่วงซึ่งเป็นเฉดสีที่สองของ
adiPOWER Predator® UCL 2011/12 ได้มีการพิมพ์คำว่า "PREDATOR" ระบุถึงตระกูล
ของรองเท้าฟุตบอลคู่นี้เอาไว้ด้วย "สีเขียวสะท้อนแสง" โดดเด่นเพราะตัดกับพื้นสีม่วง
และมีกราฟฟิกเส้นสีเงินซึ่งเป็นธีมเฉพาะของเวอร์ชั่น UCL 2011/12 พริ้วไหวเต็มไปหมด
ถัดมาเป็นชุดหุ้มส้นเท้าและเกราะป้องกันเอ็นร้อยหวายแบบภายนอก (External Heel
Counter) ซึ่งนูนสูงออกมาจากตัวรองเท้า วัสดุ TPU ที่ใช้ทำชุดพื้นมีความแข็งแรงใน
ระดับหนึ่ง แม้จะดูบอบบางกว่าชุดเกราะป้องกันของ Predator® X แต่ก็มีความแข็ง-
แกร่งกว่าชุดเกราะป้องกันของซีรี่ย์ adiZero ซึ่งเป็นต้นแบบของเทคโนโลยีชุดพื้นแบบ
Sprint Frame ที่ adiPOWER Predator® ได้หยิบยืมมาดัดแปลงใช้งาน สำหรับราชา
นักล่าเจเนอเรชั่นที่ 11 ในเวอร์ชั่น UCL 2011/12 คู่นี้ จะมีลวดลายแถบสีหลากหลาย
เฉดสี ที่ตำแหน่งส้นเท้า ซึ่งเป็นธีมของการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีกส์ ใน
ฤดูกาล 2011/12 ตามที่ได้เรียนให้ทุกท่านทราบกันไปแล้วในตอนต้น
มาพลิกเอาชุดพื้นและปุ่มของ adiPOWER Predator® UCL 2011/12 มาสำรวจกันดู
สักหน่อย เป็นชุดพื้นแบบเดียวกับที่ใช้ในรองเท้าฟุตบอลซีรี่ย์ adiZero เหตุผลที่มันถูก
ยกเอามาใช้ในรองเท้าฟุตบอลรุ่นนี้ เนื่องจากอาดิดาสต้องการลดน้ำหนักตัวลงไป
อย่างไรก็ตาม ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและออกแบบรายละเอียดของชุดพื้นให้
เหมาะสมกับการเป็นรองเท้าฟุตบอลที่ได้ฉายาว่าเป็นราชานักล่า ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นรูป
ชุดพื้นเป็นสองชั้น โดยชั้นนอกสุดจะเป็นพื้นที่สีขาวซึ่งทำหน้าที่เป็นฐานของปุ่ม
และชั้นในจะเป็นพื้นที่สีม่วงที่กินพื้นที่ออกมาเป็นกรอบนอกสุดของชุดพื้น ตรงกลาง
ฝ่าเท้าเป็นตำแหน่งการฝังตัวของเทคโนโลยี "Power Spine" ที่เห็นเป็นสีเขียวสะท้อน
แสง จะเป็นโครงสร้างแข็งที่คอยดันเท้าไม่ให้ดีดตัวกลับ ในจังหวะที่ต้องเตะลูกฟุตบอล
ออกไปเต็มแรง เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งแรงไปยังลูกฟุตบอลได้
อย่างเต็มกำลัง ลักษณะของปลายปุ่มแบบ FG ยังคงใช้ลักษณะแนววางปุ่มแบบดั้งเดิม
ของ Predator® สำหรับรุ่นนี้จะปุ่มจะมีปลายปุ่มสีม่วงตามธีมของ UCL 2011/12 และ
ตรงกลางฝ่าเท้าจะมีปุ่มทรงข้าวหลามตัดสีเขียวสะท้อนแสง คอยทำหน้าที่กระจายแรง
เพื่อความสมดุลของการเคลื่อนที่
หุ้มส้นที่ถูกออกแบบขึ้นใหม่ เพราะในเจเนอเรชั่นนี้อาดิดาสได้เปลี่ยนมาใช้วัสดุ
ประเภทผ้ากำมะหยี่มาทำเป็นหุ้มส้นด้านใน ทำให้เวลาสวมใส่เท้าเข้าไปจึงรู้สึกถึง
ความสบาย ไม่อึดอัด และสามารถเลือกที่จะใส่รองเท้าให้กระชับเท้ามากขึ้นได้โดย
ไม่ต้องกลัวการถูกรองเท้ากัด สำหรับหุ้มส้นและภายในของรองเท้าคู่นี้ จะเป็นสีม่วง
ทั้งหมดเลย
แผ่นรองพื้นที่มีลวดลายและตราสัญลักษณ์เฉพาะ บนผิวหน้าของแผ่นรองพื้น
ที่เป็นผิวหน้าประเภทผ้ากำมะหยี่ได้มีการออกแบบลวดลายพิเศษ ตรงบริเวณส้นเท้า
จะเป็นตราสัญลักษณ์ของศึก ยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีกส์ (UCL) ในเฉดสีเขียวสะท้อนแสง
ลงบนพื้นสีม่วง ที่มีลวดลายเส้นสายสีเงินพริ้วไหว โดยแผ่นรองพื้นในเวอร์ชั่นนี้จะไม่มี
การพิมพ์ลายตัวอักษรว่า Predator® เหมือนกับเวอร์ชั่นปกติ ด้านใต้ของแผ่นรองพื้น
จะมีการเสริมวัสดุประเภทโฟม adiPrene ทำหน้าที่ช่วยผ่อนแรงกระแทกจากพื้นในการ
เคลื่อนที่นั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ adiPOWER Predator® UCL 2011/12 ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ
อาดิดาสเท่านั้นที่สามารถทำได้ ถึงแม้ว่าอาดิดาสจะปล่อย adiPOWER Predator®
ออกมามากมายหลายเฉดสีให้ได้เลือกซื้อหามาใช้ลงสนามล่าตาข่ายคู่แข่งกัน แต่สำหรับ
เวอร์ชั่นพิเศษ UCL 2011/12 นั้นจะมีเพียงแค่ฤดูกาลละสองครั้งเท่านั้น ที่สำคัญ...มีเพียง
แค่ซีรี่ย์ Predator® ที่มีการผลิตออกมาเป็นเวอร์ชั่นของศึกฟุตบอลสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ในยุโรป บอกได้คำเดียวว่าพลาดแล้วจะเสียใจ เพราะเวอร์ชั่นนี้ตัวจริงเสียงจริงมันช่าง
สุดแสนจะสวยและสง่างามเสียเหลือเกิน
ทั้งนี้ท่านสามารถ สอบถามราคา adipower Predator® ได้แล้วที่ร้านอาดิดาส สปอร์ต
เพอร์ฟอร์มานซ์ คอนเซ็พท์ สโตร์ และที่ร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ
สำหรับการรีวิวการทดสอบรองเท้าคู่นี้ ขอเชิญทุกท่านเตรียมมาติดตามหาคำตอบ
กันได้ในอีกประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะผมจะขอใช้ช่วงเวลาดังกล่าวในการ "จัดหนัก"
หาข้อดีข้อเสียของ adiPOWER Predator® UCL 2011/12 มาวิเคราะห์วิจารณ์เพื่อทุกท่าน
จะได้รับประโยชน์ในการตัดสินใจหาอาวุธคู่กายคู่ใจในการลงสนาม หวังว่าคงจะไม่
นานเกินรอใช่ไหมล่ะครับ ^^"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น